A day with PlayStation 5— How was that?

Freeclub
3 min readFeb 10, 2021

ลูบคลำวันแรกๆ เป็นยังไงบ้าง?

First impression

  • พอรู้แล้วล่ะว่าเครื่องมันใหญ่ แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะใหญ่ขนาดนี้ ซึ่งก็ต้องมาจัดโต๊ะใหม่อีกว่าจะขยับอะไรออกให้มันโล่งพอที่จะวางเครื่องได้ พอวางบนโต๊ะแล้ว อย่างกับมีคอกพาร์ทิชั่นติดโต๊ะเลยคร้าบ
  • ชอบที่มันแถมอุปกรณ์สำหรับวางเครื่องในแนวตั้งไว้ได้เลย มีช่องไว้เก็บน็อตเรียบร้อย ไม่ต้องกลัวหลุด ที่ตั้งใจแถมมาแบบนี้ก็น่าจะเพราะเรื่องการระบายความร้อนนี่แหละ
  • DualSense จับถนัดมือดี น้ำหนักน่าจะพอพอกับ Razer Raiju ที่ใช้อยู่ แต่เบากว่า Dualshock 4 เยอะเลยล่ะ
  • ลำบากใจที่มันเป็นสีขาว เพราะมันมาพร้อมกับความสกปรกแน่นอน มันสวยนะ แต่ไม่ชอบตรงที่มันจะดูแลลำบาก ถ้าให้เลือกก็อยากได้สีอื่น แต่มันเลือกไม่ได้ ก็นั่นแหละ

DualSense

  • ความสามารถของจอยใหม่ที่ชื่อว่า DualSense จะมีความสามารถที่ชื่อว่า Adaptive triggers ตัวปุ่ม R2 L2 จะเปลี่ยนให้ปุ่มมันแข็ง หรือมันอ่อนก็ได้ ขึ้นอยู่กับเกมที่จะใช้ฟีเจอร์นี้ เช่นปืนแต่ละกระบอกมันก็ยังไม่เท่ากัน ก็ใช้ไอ้เจ้านี้แหละมาปรับ
  • อีกอันก็คือ Haptic feedback ระบบสั่นแบบใหม่ จากเดิมมันก็จะสั่นดื้อๆ เลย ยิงกันก็สั่น อะไรแบบนี้ แต่ Haptic feedback จะมันจะสั่นและเราสามารถสัมผัสได้เลยว่าที่สั่นมันเป็นยังไง เช่นเดินบนทราย มันก็จะสั่นอีกแบบ เดินตอนฝนตกก็จะสั่นไม่เหมือนกัน เป็นต้น
  • และโซนี่คงรู้แหละตอนนี้มันมีเกมน้อยอยู่ แถมยังเป็นเกมที่ไม่ได้รีดความสามารถของ DualSense ได้อย่างเต็มสูตร ก็เลยมีเกมโหลดฟรี คือเปิดเครื่องมาไม่ต้องกดอะไร มันยัดใส่เข้ามาให้เลยครับ เกมนั้นชื่อว่า Astro’s Playroom
อินโทรโชว์ฟีเจอร์
  • Astro’s Playroom คือเกมที่สร้างมาเพื่อโชว์ความสามารถของ DualSense อย่างแท้จริง เพราะมันครบทุกฟีเจอร์ของจอยนี้ที่สุดแล้ว
  • Haptic feedback สั่นดีขึ้นกว่า DualShock มากๆ มันมีจังหวะของการสั่น ทำให้การเล่นเกมแต่ละเกมมันจะสั่นไม่เหมือนกันเลย รวมไปถึงลำโพงในจอย เราจะได้ยินทั้งเสียง และได้สัมผัสทั้งการสั่น
  • ความละเอียดของ Haptic feedback ผมว่ามันคล้ายๆ กับ HD Rumble ที่มีอยู่ใน Nintendo Switch มันมีเกมนึงที่ทายลูกแก้วในกล่อง โดยให้เราพลิกจอยไปมาช้าๆ เพื่อสัมผัสลูกแก้วที่จะกระทบกัน แล้วนับว่ามีกี่ลูก ระบบสั่นของ HD Rumble มันสั่นจนทำให้เราสามารถนับลูกแก้วได้ ทั้งๆ ที่ในจอยมันไม่มีลูกแก้วนะ Haptic feedback ก็ทำแบบนั้นได้เหมือนกัน แต่ก็ขึ้นอยู่กับเกมอีกนั่นแหละว่าเขาจะใส่เข้ามาในรูปแบบเกมยังไง
  • ส่วน Adaptive triggers ประทับใจ เพราะก่อนหน้านี้เราลองกดปุ่ม R2 L2 มันไม่แข็ง พอเล่นเกมมันฝืด กดลงยากมาก เจ๋งดี
  • ที่บอกว่านั่นเป็นสิ่งที่ฉลาดที่ Sony แจก Astro’s Playroom มาให้ลองก็เพราะว่า เกมอื่นมันไม่สามารถสัมผัสอะไรแบบที่บอกได้เลย

Interface

  • เปิดมาเริ่มแรกงงเลยครับ เพราะมันปุ่มกดยืนยัน / ยกเลิก จากเดิมเรากด O = Ok X = Cancel ใช่มั้ย การเลือกปุ่มแบบนั้นมันเป็นแบบญี่ปุ่น และเครื่องใหม่มันสลับเป็น X = Ok O = Cancel และเราจะงงการกดทุกอย่างมากๆ และยิ่งเจอ UI ใหม่ก็ยิ่งงงเข้าไปใหญ่ หาเมนูที่ต้องการไม่เจอ
  • หน้าตาเมนูเรียบๆ จากเดิมเรากด Home มันรวมอยู่ในหน้าเดียว ตอนนี้มันแบ่งเป็นสองส่วน นั่นก็คือส่วนเกม (Games) ที่รวมทุกอย่างเกี่ยวกับเกมไว้หมด และ สื่อ (Media) ที่รวมแอปความบันเทิงทั้งหนังและเพลง ก็จะแยกกันเลย
แบ่งระหว่างเกม กับ มีเดีย
  • งงเรื่องการกดปุ่ม Home จากเดิมกดแล้วมันเห็นหน้าหลักเลย ตอนนี้ไม่ใช่ มันจะแบ่งเป็นสองแบบ กด Home 1 ครั้งจะเหมือนเรากด Home ค้างไว้ใน PS4 คือจะมีเมนูต่างๆ แจ้งเตือน ปรับเสียง ปรับไมค์ ซึ่งตรงนี้จะปรับให้ไอค่อนอยู่ด้านล่างหมดเลย และด้านบนจะกลายเป็นสถานการณ์เล่นเกม บอกว่าเกมที่เราเล่นตอนนี้มีเควสไหนที่ค้างอยู่ เหลืออีกกี่เปอร์เซ็นต์จะได้ถ้วย หรือบอกภาพหรือคลิปล่าสุดของเกมนี้ที่ถูกเราสร้างขึ้นมาเป็นต้น
  • คิดอยู่ว่าอาจจะต้องรอเฟิร์มแวร์ใหม่ๆ มาปรับปรุงหรือเพิ่มฟีเจอร์ เพราะตอนนี้เหมือนจะปรับตีมไม่ได้ เขาจะทิ้งส่วนนี้จริงดิ่ ไม่น่ามั้งนะ
  • ทั้งหมดโดยรวมสวยดี ติดงงปุ่มนี้แหละ รอชินก่อน

Performance

  • ตลอดทั้งวันที่เล่นนั้น สิ่งที่ทำคือการโหลดเกมที่เล่นใน PS4 ทีละเกมมาลองดูว่าพอมาเล่นในเครื่องเจนใหม่ จะได้อัพเกรดอะไรมาก และก็ต้องตะลึงเกือบทุกเกม เพราะสิ่งแรกที่สัมผัสได้คือ โหลดเข้าเกมเร็วมาก บางเกมที่ใช้เวลาโหลดนานๆ ยกตัวอย่าง Gran Turismo Sport ใช้เวลาดื่มน้ำอึกเดียวก็เข้าเกมแล้ว และเกมที่เปิดมาแล้วตะลึงสุดคือ Ghost of Tsushima ที่ภาพสวยขึ้น โหลดเร็ว และเฟรมเรตลื่นอย่างเห็นได้ชัด
  • ส่วนเกมที่ SSD ไม่สามารถทำอะไรเขาได้คือ Dragon Ball Z: Kakarot โหลดเร็วขึ้นกว่า PS4 แต่อยู่ในระดับที่ช้า แถมเป็น 30 fps เหมือนเดิมอีกด้วย ซึ่งมันเป็นเกมที่ใช้เวลาโหลดบ่อยมาก ไม่ปรับจริงดิ่
  • ส่วนเกม PS5 ลองเล่น Marvel’s Spider-Man: Miles Morales ภาพมาก และสิ่งที่ดีคือความลื่นทำให้เราสามารถกดต่อสู้ หลบคอมโบได้ไหลลื่นกว่าเดิม
Marvel’s Spider-Man: Miles Morales ภาพสวยมาก
  • นอกจากความคมชัดอัปเกรดไปถึงระดับ 8K (ตอนนี้เต็มที่คือ 4K) ปัญหาคือที่บ้านยังไม่มีทีวีที่ไต่ไปถึงระดับ 4K แต่ก็ยังเห็นความแตกต่างอยู่ และ Ray tracing ที่แสดงการสะท้อนของพื้นผิววัตถุต่างๆ ให้สมจริงขึ้น ก็ทำให้เกมดูมีชีวิตชีวาขึ้น
Ray tracing จุดเด่นที่ทำให้เกมสวยสมจริงขึ้น

Problems

  • ความจุน้อย เครื่องจะเหลือพื้นที่ให้ติดตั้งเกมประมาณ 514 GB ตอนนี้คงใช้วิธีเล่นเกมไหนก็ลงก่อน จบแล้วค่อยลบแล้วลงเกมใหม่ ถ้าใครเป็นสายดอง แนะนำให้ติดเน็ต 1 GB จะโหลดเร็วมากเลยล่ะครับ หรือไม่ก็รอเฟิร์มแวร์ที่เขาจะเปิดให้เราเพิ่มความจุได้ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าตอนไหน
  • อาจจะต้องรอเฟิร์มแวร์จริงๆ จังๆ เพราะเจอปัญหาอยู่ดีดีไวไฟที่เชื่อมต่อก็เชื่อมไม่ได้ ทั้งๆ ที่เครื่องอื่นไม่เป็นอะไรๆ เหมือนหลายคนก็เจอปัญหานี้
  • ด้านหลังเครื่องรู้สึกอุ่นๆ อาจจะต้องเว้นระยะพื้นที่ไว้พอสมควร ส่วนด้านบนเครื่องมันมีพัดลมขนาดใหญ่ ลองจับดูก็รู้สึกว่าเย็นมากๆ เลยล่ะ
  • ปัญหาเรื่องการแชร์ ตอนนี้สามารถแชร์คลิป หรือ ภาพ ได้สามช่องทางคือ แชร์ให้เพื่อนในแชทของ PS. แชร์ผ่านโซเชี่ยล ซึ่งจะมีทวิตเตอร์และยูทูป และเซฟใส่แฟลชไดร์ฟเอาไปอัปเอง (ยังไม่มีเฟซบุ๊ก ซึ่งเอาออกไปตั้งแต่ตอน PS4 ) ถ้าหากว่ามันแชร์เก็บได้มากกว่านี้ก็คงดี

Opinion

  • ผมในฐานะที่ได้เครื่องแล้ว เข้าใจความรู้สึกถึงการไฮป์ แต่ถ้าผ่านไปได้ ก็ยังคิดว่าคอนเทนต์เกมของ PS5 ยังมีไม่เยอะเท่าไหร่ ดังนั้นรอเกมออกมาเยอะกว่านี้ หรือจองรอต่อไปเรื่อยๆ ได้ก็ดี ไม่ได้ก็รอรอบต่อไป จะดีกว่า
  • นอกจากเรื่องคอนเทนต์แล้ว เรื่องเฟิร์มแวร์ก็สำคัญ เพราะเท่าที่เจอจากปัญหาหลายๆ อย่างนั้น เฟิร์มแวร์ใหม่น่าจะช่วยแก้ตรงจุดนี้ได้
  • ทีวีรอปีหน้า หรือจะถอยเพราะเป็นบันเดิ้ลรวมกับเครื่องก็ได้ แต่ใครมีทีวีอยู่ ผมว่าด้วยคอนเทนต์ที่มีไม่เยอะ เล่นทีวีเครื่องเดิมไปก่อนก็ได้ครับ

--

--

Freeclub

อยู่ในช่วงปรับปรุง